“แผนการสอน” นั้นถือเป็นหัวใจหลักที่สำคัญของการเรียนรู้สำหรับนักเรียน ซึ่งตัวครู-อาจารย์ก็ต้องใช้ทั้งเวลาและความรู้ในการวางแผนการสอนให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมถึงให้เหมาะสมสำหรับการเรียนการสอนของเด็กแต่ละช่วงวัย 6 เทคนิคต่อไปนี้ จะเป็นตัวช่วยให้อาจารย์ได้มีแนวทางไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนการสอนได้อย่างครอบคลุมและจัดการให้เหมาะสมสำหรับนักเรียนของตน

 

1. กำหนดระยะเวลาที่แน่นอน
    อันดับแรกเริ่มด้วยการกำหนดระยะในการวางแผนการสอนที่แน่นอน เพื่อให้มั่นใจว่า ตัวครู-อาจารย์จะไม่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ในช่วงระยะเวลาที่สำคัญนี้

 

2. ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์
 เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ได้เกิดขึ้นมากมายเพื่อให้ครู-อาจารย์นั้นสามารถนำไปประยุกต์ให้เกิดความสะดวกสบายมากขึ้น เช่น การบันทึกแผนการสอนไวใน “Outlook” ซึ่งสามารถเพิ่มเติมได้ รวมไปถึงการใช้แอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า “iDoceo” ที่สามารถนำมาปรับใช้กับเอกสารแผนการสอน และที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยของเอกสาร ครู-อาจารย์ก็สามารถนำไปฝากไว้ใน “Google Drive” หรือระบบคลาวด์ ยิ่งถ้าหากครู-อาจารย์ต้องมีการทำงานร่วมกัน ก็ยังสามารถแบ่งปันเอกสารง่ายๆ ผ่านทาง “Google Drive” รวมถึงการฝากไฟล์ในระบบคลาวด์ก็ยังทำให้ครู-อาจารย์สามารถเปิดไฟล์เอกสารได้จากทุกอุปกรณ์ และในการบันทึกแผนการสอนต่างๆ ที่พบบนเว็บไซต์ ก็สามารถใช้แอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า “Evernote” เป็นต้น

 

3. ถามตัวเองเพื่อความมั่นใจ
    ในการวางแผนการสอนนั้น ควรให้การมุ่งเน้นไปที่ว่า เด็กจะได้เรียนรู้อะไรและอย่างไรมากกว่าการมุ่งเน้นไปที่ตัวงาน โดยคำถามต่อไปนี้ จะเป็นตัวช่วยในการวางกรอบแนวความคิดในการพัฒนาแผนการสอนได้
 - อะไรคือความรู้และทักษะที่สำคัญที่ต้องให้นักเรียนได้เรียนรู้ และจะสร้างสรรค์วิธีการท้าทายได้อย่างไร?
 - อะไรที่เป็นความเข้าใจผิดที่มักเกิดขึ้นโดยทั่วไป แล้วตัวครู-อาจารย์เองจะป้องกันหรือขจัดออกไปได้อย่างไร?
 - ครู-อาจารย์จะรู้ได้อย่างไรว่าพื้นฐานความรู้ของเด็กในเรียนในชั้นนั้นมีอะไรบ้าง?
 - เมื่อไหร่ที่ครู-อาจารย์สมควรจะแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่จะนำความรู้และทักษะใหม่ๆ ไปใช้?
 - คำถามอะไรที่ครู-อาจารย์ควรใช้ในห้องระหว่างการเรียนการสอน เพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนเข้าใจในสิ่งที่กำลังเรียนรู้อยู่ในขณะนั้น
 - คำถามอะไรที่จะสามารถใช้ท้าทายนักเรียนได้ เมื่อครู-อาจารย์นั้นมั่นใจแล้วว่า นักเรียนในชั้นรู้พื้นฐานที่สำคัญแล้ว
-จุดไหนในแผนการสอนที่จะเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีการฝึกปฏิบัติโดยใช้ทักษะการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่เพิ่งเรียนรู้
  - เน้นย้ำในช่วงสุดท้ายของบทเรียน ยกตัวอย่างเช่น สิ่งไหนที่นักเรียนคิดว่าเป็นส่วนที่ยากที่สุดในบทเรียน เพื่อที่ว่า ในครั้งต่อไปจะกลับมาทบทวนหรือเน้นย้ำอีกครั้งได้
 

 

4. เรียนรู้จากสิ่งที่เป็นไปด้วยดี
การประเมินผลและการจัดการแผนการสอนนั้นจะก่อให้เกิดความเครียดน้อยลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากแต่ละบทเรียนนั้นมีข้อเสนอแนะที่สำคัญในสิ่งที่เป็นไปได้ด้วยดีและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ลองใช้ช่วงเวลาท้ายของการประมวลแผนการสอนในการเน้นย้ำในสิ่งที่ควรปรับเปลี่ยนที่ครู-อาจารย์ต้องทำในอนาคต
 

5. อย่าหมกมุ่นกับแผนการสอนจนเกินไป
     การวางแผนการสอนนั้น ต้องอาศัยการคิดพิจารณาถึงรายละเอียดแบบแผนเพื่อไห้ถึงเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยในรายละเอียดแต่ละจุดแต่ละข้อนั้น ต้องมีมากพอที่จะสามารถจัดวางอยู่ในเส้นทางที่เหมาะสม โดยที่ก็สามารถให้ความยืดหยุ่นในรายละเอียดเพื่อการปรับเปลี่ยนแก้ไขในจุดที่ไม่เหมาะสมได้ และการวางแผนนั้งต้องอาศัยจุดสำคัญที่น่าสนใจ ซึ่งอาจเปิดเป็นประเด็นคำถามเพื่อกระชับความเข้าใจสำหรับเด็กๆ อีกทั้งควรมีการเตรียมการล่วงหน้าในสิ่งที่เด็กอาจเกิดคำถามหรือไม่เข้าใจ และที่สำคัญจงจำไว้ว่าการวางแผนการสอนนั้น ก็เพื่อเสริมสร้างการเรียนการสอนของครู-อาจารย์ ไม่ใช่มีไว้เพื่อจำกัดความคิดของตน

 

6. สอนน้อยๆ แต่ย้ำเตือนบ่อยขึ้น
     บางทีการเรียนการสอนที่ป้อนข้อมูลมากจนเกินไป อาจเกินความสามารถของเด็กที่จะเก็บเกี่ยวหรือรับรู้ได้ ในขณะที่การสอนที่น้อยและมีการให้เด็กๆ ได้มีโอกาสได้ทบทวนบ่อยๆ อาจทำให้เด็กๆ เกิดการเรียนรู้ ดังนั้นการวางแผนแต่ละบทเรียน อาจเพิ่มการเชื่อมโยงไปยังบทเรียนก่อนหน้า และทบทวนอีกครั้งในช่วงปลายเทอม เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก hongpakkroo